การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี ได้ดำเนินมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าแชมป์เก่าอย่างอิตาลีจะตกรอบไป แต่ก็ยังมีทีมยักษ์ใหญ่ที่ผ่านเข้ามาอย่างครบครัน ซึ่งประกอบด้วย ฝรั่งเศส (France) อังกฤษ (England) สเปน (Spain) เยอรมนี (Germany) โปรตุเกส (Portugal) เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) และ ตุรกี (Turkiye) วันนี้เราจะมาสรุปผลงานของแต่ละทีมโดยใช้ข้อมูลจาก เว็บแทงบอลยูโร 2024 

เยอรมนี ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ เดนมาร์ก 2-0
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ สเปน (วันที่ 5 ก.ค.)
เจ้าภาพเยอรมนีแสดงผลงานได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และในการปะทะกับเดนมาร์กพวกเขาเอาชนะได้ด้วยประตูจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ และ จามาล มูเซียล่า แม้ว่าจะมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับการใช้ระบบ VAR และเทคโนโลยี “Snickometer” แต่ท้ายที่สุดทีม “อินทรีเหล็ก” ก็สามารถผ่านเข้ารอบได้อย่างเหมาะสม และจะไปพบกับสเปนในรอบต่อไป

สเปน ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ จอร์เจีย 4-1
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ เยอรมนี (วันที่ 5 ก.ค.)
สเปนถือเป็นทีมที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม พวกเขาชนะทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่มและสามารถเอาชนะจอร์เจียในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยศักยภาพของนักเตะดาวรุ่งอย่าง นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ ลามีน ยามาล ซึ่งผสมผสานกับแข้งเก๋าอย่าง โรดรี้ และ อัลบาโร่ โมราต้า ทำให้ทีมสเปนแข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างยิ่ง

สวิตเซอร์แลนด์ ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ อิตาลี 2-0
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ อังกฤษ (วันที่ 6 ก.ค.)
สวิตเซอร์แลนด์โชว์ฟอร์มได้อย่างมีมาตรฐานในรอบแบ่งกลุ่มและสามารถเอาชนะอิตาลีแชมป์เก่าในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยการเล่นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ภายใต้การคุมทีมของมูรัต ยาคิน ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าจับตามองและอังกฤษต้องเจอกับงานหนักในรอบต่อไป

อังกฤษ ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ สโลวาเกีย 2-1 (ช่วงต่อเวลาพิเศษ)
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ (วันที่ 6 ก.ค.)
อังกฤษภายใต้การคุมทีมของแกเร็ธ เซาธ์เกต ฟอร์มยังไม่แน่นอน แต่ก็สามารถผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการชนะสโลวาเกียในช่วงต่อเวลาพิเศษ ด้วยประตูสำคัญจาก จู๊ด เบลลิงแฮม และ แฮร์รี่ เคน ทำให้พวกเขายังคงมีโอกาสคว้าความสำเร็จครั้งแรกนับตั้งแต่เวิลด์คัพ 1966

ฝรั่งเศส ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ เบลเยียม 1-0
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ โปรตุเกส (วันที่ 5 ก.ค.)
ฝรั่งเศสมีนักเตะระดับโลกอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ อุสมาน เดมเบเล่ แต่ผลงานยังไม่แน่นอน แม้ว่าจะสามารถเอาชนะเบลเยียมได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยประตูจาก ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ ทำให้พวกเขาต้องเจอกับโปรตุเกส ในรอบต่อไป

โปรตุเกส ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะจุดโทษ สโลวีเนีย 3-0 (เสมอ 0-0 ในเวลา 120 นาที)
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ ฝรั่งเศส (วันที่ 5 ก.ค.)
โปรตุเกสผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการชนะจุดโทษสโลวีเนีย โดยในช่วงเวลาพิเศษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พลาดจุดโทษ แต่ ดีโอโก้ คอสต้า นายทวารของทีมเซฟจุดโทษสำคัญได้ ทำให้พวกเขายังคงอยู่ในเส้นทาง

เนเธอร์แลนด์ ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ โรมาเนีย 3-0
รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดต่อไปพบกับ ตุรกี (วันที่ 6 ก.ค.)
เนเธอร์แลนด์ที่ถูกยกย่องเป็นทีมเต็งแชมป์ สามารถผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการเอาชนะโรมาเนีย โดยมี โกดี้ คักโป ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นแชมป์ยูโรครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1988

ตุรกี ผลงานในรอบ 16 ทีม: ชนะ ออสเตรีย 2-1
รอบ 8 ทีมสุดท้าย: พบ เนเธอร์แลนด์ (วันที่ 6 ก.ค.)
ตุรกีทำผลงานได้ดีในรอบแบ่งกลุ่มและสามารถเอาชนะออสเตรียในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง และจังหวะสวนกลับ ทำให้พวกเขาสามารถผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ

ประกบคู่รอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมวันและเวลาการแข่งขัน

• วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม, เวลา 23.00 น.: สเปน พบกับ เยอรมนี
• วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม, เวลา 02.00 น.: โปรตุเกส พบกับ ฝรั่งเศส
• วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม, เวลา 23.00 น.: อังกฤษ พบกับ สวิตเซอร์แลนด์
• วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม, เวลา 02.00 น.: เนเธอร์แลนด์ พบกับ ตุรกี

รอบ 8 ทีมสุดท้ายของยูโร 2024 นี้เป็นการแข่งขันที่น่าติดตามอย่างยิ่ง ทุกทีมต่างมีศักยภาพและความสามารถที่จะไปถึงเส้นชัย คอยติดตามชมการแข่งขันและสนับสนุนทีมที่คุณชื่นชอบ

ขอบคุณข้อมูลแหล่งที่มาจาก เว็ปแทงบอลยูโร 2024